
แฉเบื้องหลังการเลี้ยงไก่ของฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลก!!
แฉเบื้องหลังการเลี้ยงไก่ของฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลก!!
รายงานการจัดอันดับบริษัทฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังระดับโลกด้านการจัดการสวัสดิภาพไก่ 2021
รายงาน The pecking order ได้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว ซึ่งในการรวบรวมข้อมูลและตีพิมพ์ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอกรอบการทำงานและข้อชี้แนะต่อบริษัทฟาสต์ฟู้ดชั้นนำระดับโลกทั้งหมด 8 แห่ง พร้อมประเมินผลการปฏิบัติงานด้านการจัดการสวัสดิภาพไก่เนื้อของแต่ละแห่ง ซึ่ง The pecking order ถือเป็นเครื่องมือเดียวในโลกที่ช่วยให้บริษัทเหล่านี้ดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกยึดถือเรื่องความโปร่งใสเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานยกระดับสวัสดิภาพไก่เนื้อ ด้วยเหตุผลนี้เอง เราจึงประเมินผลการดำเนินงานภายใน The pecking order 2021 จากข้อมูลสาธารณะเท่านั้น
หลักเกณฑ์ที่ใช้ประเมินในรายงาน The pecking order นั้นได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment ซึ่งจัดทำขึ้นโดยกลุ่มองค์กรปกป้องสัตว์ทั่วโลก โดยมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และร่างขึ้นบนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะครอบคลุมถึงประเด็นการใช้ไก่สายพันธุ์โตช้า การแก้ไขปัญหาความแออัดและแสงสว่างไม่เพียงพอเพื่อให้ไก่มีอิสระในการเคลื่อนไหว
โดยบริษัทต่างๆ ถูกประเมินด้วยคะแนนจาก 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความร่วมมือ วัตถุประสงค์กับเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ และการรายงานผลการดำเนินงาน โดยในแต่ละด้าน จะมี 6 คำถาม 30 คะแนน รวมแล้วทั้งหมด 3 ด้าน มีคะแนนทั้งหมด 90 คะแนนเต็ม จากนั้น แต่ละบริษัทจะถูกจัดลำดับตามคะแนนรวมที่ตนเองทำได้ ซึ่งมีทั้งหมด 6 ลำดับ ตั้งแต่ “แย่มาก” ไปจนถึง “เป็นผู้นำ”
ผลการจัดอันดับภาพรวมของฟาสต์ฟู้ดชั้นนำภายในประเทศไทยและในระดับ Global
แชร์ผลการจัดอันดับไปยัง Facebook ของคุณ
ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาในรายงาน The pecking order ปีนี้ คือได้มีการแสดงผลการประเมินของฟาสต์ฟู้ดในประเทศต่างๆซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย นับเป็นโอกาสดีที่ฟาสต์ฟู้ดในแต่ละประเทศจะเริ่มปรับปรุงและพัฒนาแผนการดำเนินงานเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment และเป็นไปในแนวทางเดียวกันในทุกสาขาทั่วโลก
มาดูผลการจัดอันดับของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดทั้งในประเทศไทยและในระดับ Global กัน ว่าแต่ละแบรนด์มีการดูแลสวัสดิภาพไก่เป็นอย่างไรกันบ้าง
KFC Global กำลังดำเนินการ (59%)
ในการประเมินปีนี้ KFC ได้รับคะแนนรวม 53 จาก 90 คะแนนเต็ม ดีขึ้นกว่าคะแนนในรายงาน The pecking order 2020 โดยถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 3 (Tier 3) หรือ ‘กำลังดำเนินการ’ ซึ่งยังอยู่ในลำดับเดิมจากปีที่แล้ว
คะแนนรวมของ KFC ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา เพราะมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ของสาขาในทวีปยุโรปตะวันตก เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนี เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และสวีเดนที่เปิดเผยข้อมูลมาตรฐานด้านสวัสดิภาพที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment ต่อสาธารณะ พร้อมทั้งยังรายงานการดำเนินงาน และตั้งเป้าหมายสวัสดิภาพไก่ภายในปี พ.ศ.2569
แต่อย่างไรก็ตาม เราสนับสนุนให้สาขาที่เหลือของ KFC ทั่วโลกกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการกำหนดแนวทางยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ที่สอดคล้องกับ Better Chicken Commitment มาร่วมกันส่งเสียงไปยัง KFC ให้เริ่มดำเนินการปรับปรุงสวัสดิภาพไก่ในทุกสาขาทั่วโลกได้แล้ว
KFC ประเทศไทย แย่มาก (6%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์ของบริษัท Yum! Brands ครอบคลุมสาขาของ KFC ในประเทศไทย ซึ่งมีการพูดถึงแนวทางสำหรับการยกระดับสวัสดิภาพไก่
แต่เรากลับพบว่าแนวปฏิบัติดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment เช่น KFC ประเทศไทยยังไม่เปิดเผยข้อมูลด้านสวัสดิภาพสัตว์บนเว็บไซต์ ทำให้ KFC ประเทศไทย ถูดจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก" เราสนับสนุนให้ KFC ประเทศไทยแสดงจุดยืนด้านสวัสดิภาพสัตว์ และปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
มาร่วมกันส่งเสียงไปยัง KFC ประเทศไทยให้ออกมาแสดงจุดยืนและลงนามใน Better Chicken Commitment ให้สอดคล้องกับ KFC ในประเทศทางฝั่งยุโรปได้แล้ว!
Pizza Hut Global เพิ่งเริ่มลงมือ (42%)
คะแนนรวมของ Pizza Hut ดีขึ้นมากกว่าคะแนนที่บริษัทเคยได้รับในรายงาน The pecking order 2020 โดยในปีนี้ Pizza Hut ได้รับ 38 คะแนนจากทั้งหมด 90 คะแนน ถูกปรับขึ้นมาให้อยู่ในลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘เพิ่งเริ่มลงมือ’ จากลำดับที่ 6 (Tier 6) ในรายงานฉบับปีที่แล้ว
สาขาของ Pizza Hut ในแต่ละประเทศถูกครอบคลุมโดยนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ของบริษัท Yum! Brands ซึ่งพบว่ามีการกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่ แต่แนวทางดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment สาเหตุที่คะแนนรวมของ Pizza Hut ดีขึ้น เพราะสาขาของ Pizza Hut ในสหราชอาณาจักรและยุโรปประกาศเจตนารมณ์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตไก่เนื้อตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้ภายในปี พ.ศ.2569 ซึ่งความพยายามดังกล่าวสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
เราสนับสนุนให้ Pizza Hut จัดทำ รายชื่อประเทศที่ถูกครอบคลุมโดยนโยบายสวัสดิภาพสัตว์ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ สาขาในสหราชอาณาจักรและยุโรป
Pizza Hut ประเทศไทย แย่มาก (6%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์ของบริษัท Yum! Brands ครอบคลุมสาขาของ Pizza Hut ในประเทศไทย ซึ่งพบว่ามีการกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่ แต่แนวทางดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment อีกทั้งยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลด้านสวัสดิภาพสัตว์บนเว็บไซต์ ทำให้ Pizza Hut ประเทศไทย ถูดจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก"
เราสนับสนุนให้ Pizza Hut ในประเทศไทยแสดงจุดยืนด้านสวัสดิภาพสัตว์ และปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
Burger King Global เพิ่งเริ่มลงมือ (41%)
คะแนนรวมของ Burger King เพิ่มสูงมากขึ้นจากการประเมินในรายงาน The pecking order 2020 โดยในปีนี้ Burger King ได้รับ 37 คะแนนจากทั้งหมด 90 คะแนน และถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘กำลังดำเนินการ’ เลื่อนขึ้นมาจากลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ ‘แย่มาก’
ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัทแม่ Restaurant Brands International (RBI) Burger King ในสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาได้วางแผนการทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตไก่แล้ว ซึ่งความพยายามของ Burger King ในสอง ประเทศสอดคล้องกับมาตรฐานของ Global Animal Partnership (GAP) และครอบคลุมประเด็นการควบคุมความหนาแน่นภายในโรงเรือน การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรือน และการเลือกใช้วิธีการฆ่าไก่โดยคำนึกถึงหลักมนุษยธรรม
ในขณะที่นโยบายสวัสดิภาพไก่ของ Burger King ในสหราชอาณาจักรกำลังดำเนินไปในทิศทางเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตไก่ของยุโรปภายในปี พ.ศ.2569 โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมความหนาแน่นภายในโรงเรือน การคัดเลือกสายพันธุ์ไก่โตช้า การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรือน การเลือกใช้วิธีการฆ่าไก่โดยคำนึกถึงหลักมนุษยธรรม และการตรวจสอบโดยบุคคลที่ 3 หรือหน่วยงานภายนอก
ในส่วนของ Burger King ในสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา เราสนับสนุนให้สาขาของ Burger King ในสองประเทศนี้ รวมถึงสาขาในประเทศอื่น ๆ ประกาศจุดยืนเรื่องสวัสดิภาพไก่และความตั้งใจของบริษัทในการยกระดับคุณภาพชีวิตไก่ต่อสาธารณชน เรายังสนับสนุนให้ Burger King เริ่มจัดทำรายงานและกำหนดกรอบเวลาทำงานที่ชัดเจนสำหรับ Burger King ในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และประเทศแคนาดา
Burger King ประเทศไทย แย่มาก (10%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากลของ Burger King ครอบคลุมสาขาในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เรากลับยังไม่พบความพยายามในการยกระดับคุณภาพไก่ และไม่พบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตไก่ ทำให้ Burger King ประเทศไทย ถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก"
เราสนับสนุนให้ Burger King ในประเทศไทยปรับเปลี่ยนนโยบายบริษัทให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
Nando's Global เพิ่งเริ่มลงมือ (38%)
คะแนนรวมของ Nando’s เพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับคะแนนในรายงาน The pecking order 2020 โดยในปีนี้ Nando’s มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 34 จากคะแนนทั้งหมด 90 คะแนน ไต่ขึ้นมาจากลำดับที่ 5 (Tier 5) ในปีที่แล้ว มาอยู่ลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘เพิ่งเริ่มลงมือ’ ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม Nando’s ยังคงไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายสวัสดิภาพไก่ระดับสากลของบริษัท ความร่วมมือยังคงถูกจำกัดอยู่ในแต่ละประเทศเท่านั้น ลำดับการจัดการด้านสวัสดิภาพไก่ของ Nando’s ในสหราชอาณาจักรไต่สูงขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากการประกาศคำมั่นสัญญายกระดับคุณภาพชีวิตไก่ภายในปี พ.ศ.2569 ซึ่งสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment ในขณะที่ Nando’s ในประเทศอื่น (เช่น ออสเตรเลีย,แคนาดา และนิวซีแลนด์) ออกแถลงการณ์เลือกใช้ไก่แบบไม่ขังกรง (Cage-free)
เราสนับสนุนให้ Nando’s กำหนดกรอบเวลาทำงานเพื่อพัฒนาสวัสดิภาพไก่ระดับสากล แนวทางการดำเนินการควรสอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment และทุกสาขาในแต่ละประเทศควรนำไปปรับใช้ บริษัทควรเริ่มจัดทำรายงานผลการดำเนินงานที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางในการบรรลุเป้าหมาย
McDonald's Global เพิ่งเริ่มลงมือ (37%)
คะแนนรวมของ McDonald’s ดีขึ้นกว่าคะแนนที่ได้รับจากการประเมินในรายงาน The pecking order 2020 โดยในปีนี้ McDonald’s ได้รับ 33 คะแนนจากทั้งหมด 90 คะแนน ส่งผลให้ลำดับของบริษัทขยับขึ้นมาจาก ลำดับที่ 5 (Tier 5) มาอยู่ในลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘เพิ่งเริ่มลงมือ’
เราสนับสนุนให้ McDonald’s รายงานผลการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตไก่ภายในปี พ.ศ.2567 ตามเจตนารมณ์ที่ประกาศไว้
McDonald's ประเทศไทย แย่ (16%)
สำหรับในส่วนของ McDonald's ประเทศไทย ได้มีการขยับอันดับขึ้นมาจากปีที่ผ่านมาหนึ่งอันดับมาอยู่ในลำดับที่ 5 (Tier 5) หรือ "แย่" แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาสวัสดิภาพไก่ นโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากลของ McDonald’s ครอบคลุมสาขาในประเทศไทย
แต่อย่างไรก็ตามเรายังคงสนับสนุนให้ McDonald’s ในประเทศไทยปรับปรุงมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับทุกข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
Subway Global เพิ่งเริ่มลงมือ (31%)
คะแนนรวมของ Subway นั้นน้อยลงจากรายงาน The pecking order 2020 โดยในปีนี้ Subway ได้รับ 28 คะแนนจากทั้งหมด 90 คะแนน ยังคงอยู่ในลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘เพิ่งเริ่มลงมือ’ ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
เราสนับสนุนให้ Subway ประกาศยกระดับคุณภาพชีวิตไก่ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ Better Chicken Commitment และสาขาของ Subway ในทุกประเทศจะต้องนำนโยบายด้านสวัสดิภาพไก่ไปปรับใช้ เราสนับสนุนให้ Subway เริ่มจัดทำรายงานด้านสวัสดิภาพไก่ของสาขาในสหรัฐอเมริกา
Subway ประเทศไทย แย่มาก (0%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากลของ Subway ครอบคลุมสาขาในประเทศไทย แต่เราไม่พบว่ามีการกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่อย่างเป็นทางการ อีกทั้งบริษัทยังไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความพยายามในการปรับปรุงมาตรฐานสวัสดิภาพไก่ จึงส่งผลให้ Subway ประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก"
เราสนับสนุนให้ Subway ในประเทศไทยปฏิบัติตามหลักด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
Starbucks Global เพิ่งเริ่มลงมือ (28%)
ระดับคะแนนรวมของ Starbucks’s ยังคงเดิมจากในรายงาน The pecking order 2020 โดยมีคะแนนอยู่ที่ 25 จากทั้งหมด 90 คะแนน และถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 4 (Tier 4) หรือ ‘เพิ่งเริ่มลงมือ’ เช่นเดิม
สาขาของ Starbucks ในสหรัฐอเมริกาพัฒนาและยกระดับการเลี้ยงไก่ตามแนวปฏิบัติด้านสวัสดิภาพสัตว์ อาทิ การลดความแออัดภายในโรงเรือน การคัดเลือกสายพันธุ์ไก่ที่ส่งผลดีต่อสวัสดิภาพสัตว์ การบริหารจัดการสภาพแวดล้อมให้ไก่ได้แสดงพฤติกรรมทางธรรมชาติมากขึ้น การเลือกใช้วิธีฆ่าอย่างมีมนุษยธรรม และการตรวจสอบโดยบุคคลที่ 3 หรือหน่วยงานภายนอก แนวปฏิบัติทั้งหมดสอดคล้องกับมาตรฐาน Global Animal Partnership (GAP) เราสนับสนุนให้ Starbucks ประกาศจุดยืนด้านสวัสดิภาพสัตว์ต่อสาธารณะ และพัฒนาแนวทางการปฏิบัติให้ทุกสาขาในแต่ละประเทศนำไปปรับใช้ สาขาในประเทศแคนาดาเคยประกาศจุดยืนตามสาขาในสหรัฐอเมริกา แต่เราพบว่า เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าวถูกลบทิ้งออกจากเว็บไซต์
เราสนับสนุนให้ Starbucks จัดทำรายงานผลดำเนินการด้านสวัสดิภาพสัตว์เพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายภายในเวลาที่กำหนดที่ตั้งไว้สำหรับสาขาในสหรัฐอเมริกา
Starbucks ประเทศไทย แย่มาก (0%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากลของ Starbucks ครอบคลุมสาขาในประเทศไทย แต่ไม่พบว่ามีการกล่าวถึงแนวทางการดำเนินงานเพื่อยกระดับสวัสดิภาพไก่ อีกทั้งเว็บไซต์ของบริษัทไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสวัสดิภาพไก่ ทำให้ Starbucks ประเทศไทย ถูดจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก"
เราสนับสนุนให้ Starbucks ในประเทศไทยปฏิบัติตามหลักด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
Domino's Pizza PLC แย่มาก (12%)
นโยบายสวัสดิภาพสัตว์สากลของ Domino’s Pizza Group PLC ครอบคลุมเฉพาะผู้ผลิตเนื้อไก่ให้สาขาในสหราชอาณาจักร และประเทศไอร์แลนด์เท่านั้น ซึ่งนอกจากการจัดการสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ไก่แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติแล้ว วิธีปฏิบัติอื่นๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตไก่กลับถูกพบว่า ยังไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment
แม้ว่า Domino’s Pizza Group PLC ในสหราชอาณาจักรได้ประกาศเลี้ยงไก่แบบไม่ขังกรง (Cage-free) และจัดทำรายงานความหนาแน่นของไก่ภายในโรงเรือนที่ทำให้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 (Tier 5) หรือ "แย่"
แต่อย่างไรก็ตามเรายังอยากสนับสนุนให้บริษัทเดินหน้าพัฒนามาตรฐานสวัสดิภาพไก่ที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Better Chicken Commitment รวมถึงการเลือกใช้ไก่สายพันธุ์โตช้า
Domino's Pizza Inc. แย่มาก (0%)
Domino’s Pizza Inc. ยังไม่มีนโยบายด้านสวัสดิภาพไก่ หรือแสดงพันธะสัญญาใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Better Chicken Commitment ทำให้ถูดจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 6 (Tier 6) หรือ "แย่มาก" เราสนับสนุนให้ Domino’s Pizza Inc. ปรับเปลี่ยนนโยบายบริษัทให้สอดคล้องกับมาตรฐาน Better Chicken Commitment
Domino's Pizza ประเทศไทย แย่มาก (0%)
ไม่ปรากฏผลข้อมูล
ผลจากรายงานในครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สวัสดิภาพไก่จากร้านฟาสต์ฟู้ดส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทยที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงเป็นการด่วน! เนื่องจากแบรนด์ส่วนใหญ่ถูกจัดให้อยู่ใน Tier 5 (แย่) - Tier 6 (แย่มาก)
หากพิจารณากันดู แบรนด์ที่ยิ่งต้องแสดงความก้าวหน้าด้านการพัฒนาสวัสดิภาพไก่ให้โดดเด่นกว่าแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ นั่นคือ KFC ที่มีไก่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ และ ประสบความสำเร็จมาได้จนถึงปัจจุบันนี้เพราะ "ไก่"
ซึ่งในปีนี้ KFC Global ได้คะแนนรวมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา อยู่ในระดับ Tier 3 (กำลังดำเนินการ) เนื่องจาก KFC สาขาทางฝั่งทวีปยุโรปในหลายประเทศได้เริ่มดำเนินการพัฒนาสวัสดิภาพไก่อย่างเป็นทางการแล้วโดยการลงนามใน Better Chicken Commitment (BCC)
แต่ในส่วนของ KFC ประเทศไทยนั้นมีคะแนนอยู่ในระดับ Tier 6 (แย่มาก) สะท้อนให้เห็นถึงความ “ล้มเหลว” ในการพัฒนาสวัสดิภาพไก่อย่างมากเมื่อเทียบกับฝั่ง Global และยังสะท้อนถึงภาพลักษณ์ด้านจิตสำนึกที่ไร้ความรับผิดชอบต่อสวัสดิภาพไก่โดยสมบูรณ์
หาก KFC ประเทศไทย ยังไม่ออกมาแสดงถึงความมุ่นมั่นในเรื่องนี้อย่างจริงจัง คะแนนของ KFC ประเทศไทยก็จะคงที่อยู่เท่าเดิม และเกิดเป็นคำถามขึ้นว่า ทำไมคนไทยถึงได้กินไก่ที่มีคุณภาพและสวัสดิภาพต่ำกว่ายุโรปทั้งที่เป็นแบรนด์เดียวกัน?
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกสนับสนุนให้ KFC ประเทศไทย เริ่มดำเนินการพัฒนาสวัสดิภาพไก่โดยการลงนามใน Better Chicken Commitment อย่างเป็นทางการได้แล้ว เพื่อสวัสดิภาพที่ดีขึ้นของไก่ และ ยังเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจต่อผู้บริโภคคนไทยที่อยากเห็นไก่มีชีวิตที่ดีขึ้น!
© Copyright Reserved World Animal Protection Thailand Tel: +66 (0) 2 007 1767. Email: info@worldanimalprotection.or.th. UK Registered Charity Number 1081849.