เชฟโรงแรมหรูสู่เจ้าของกิจการผลิตเนื้อสัตว์คุณภาพ Sloane’s ใส่ใจสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม

มาตรฐานของสัตว์เลี้ยงในฟาร์มกับความคาดหวังของผู้บริโภค

ปัจจุบันสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ยังคงเป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เนื่องจากคุณภาพชีวิตโดยรวมของสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม ส่งผลต่อสภาพร่างกายและอารมณ์ของสัตว์ เพื่อให้มั่นใจในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์คุณภาพสูงและเป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ของ Sloane’s

คุณโจ สโลน เชฟชื่อดังชาวอังกฤษ ได้ก่อตั้ง Sloane’s ขึ้นในปี 2009 โดยขณะนั้นเขามีประสบการณ์ในการทำงานในโรงแรมชั้นนำและร้านอาหารระดับมิชิลินสตาร์ของโลก การเดินทางมาทำงานพ่อครัวในประเทศไทยเมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้เขาต้องประหลาดใจ เนื่องจากการสั่งวัตถุดิบมาแต่ละครั้ง เขาไม่สามารถรู้ถึงแหล่งที่มาของอาหารที่นำมาปรุงได้เลย ซึ่งต่างจากที่ประเทศอังกฤษ

“ตอนเป็นเชฟ เวลาที่ผมถามว่าเนื้อหมู เนื้อไก่นี้ มาจากไหน คนที่นำมาส่งมักจะตอบว่ามาจากต่างจังหวัด ที่นั่น ที่นี่ แต่ไม่รู้ที่ไหน แต่ถ้าเป็นที่อังกฤษผมสามารถเช็ครายละเอียดได้หมดว่า สัตว์กินอะไร อยู่อย่างไร นอนอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร การที่ไม่มีใครให้คำตอบได้ ทำให้ผมค่อนข้างคาใจกับคำถามเหล่านั้น ในระหว่างนั้นเอง ผมได้รู้จักกับเพื่อนเชฟที่มีปณิธานเดียวกัน เรื่องความยั่งยืนทางอาหาร คือ คุณดวงพร ทรงวิศวะ และคุณดีแลน โจนส์ เจ้าของร้านอาหารโบลาน ร้านระดับรางวัลมิชลิน 1 ดาว โดยผมเริ่มทำโปรเจกต์ ไส้กรอกหมูคุณภาพดี สูตรของผมเอง ส่งให้ร้านอาหาร โดยใช้ครัวของที่ร้านโบลาน ด้วยเหตุนี้ผมจึงเริ่มทำงานกับฟาร์มขนาดเล็กทั่วประเทศไทยที่มีแนวคิดบนฐานที่ทำการเกษตรแบบธรรมชาติ”

Sloane’s สนับสนุนให้ผู้ผลิตในท้องถิ่นปรับปรุงแนวทางปฏิบัติของพวกเขา ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงสัตว์ รวมถึงวิธีที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ เพื่อรับประกันผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติ ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“เกษตรกรรายย่อยที่ผมเลือก ต้องส่งเสริมการดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ เลี้ยงอย่างมีอิสระ กินอาหารดี นอนบนพื้นหญ้า ไม่ใช่ในคอกคอนกรีต ผมสนใจควบคุมแม้กระทั่งการจัดส่งสัตว์เหล่านั้นมาที่โรงงานของผม จะต้องไม่มีการเบียดเสียดบนท้องถนน และมีความเครียดอย่างเด็ดขาด”

คุณโจ กล่าวถึงแนวทางการทำงานที่ชัดเจนกับเกษตรกร

วิธีฆ่าที่ดีที่สุดต้องไม่ทำให้สัตว์เกิดความเครียด

ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัยอาหารที่ทันสมัย สะอาด และปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ของ Sloane’s จึงใช้วิธีการฆ่าด้วยกรรมวิธีที่อาศัยทักษะ และความชำนาญเฉพาะด้านขั้นสูง

“วิธีที่ดีที่สุดของการฆ่าสัตว์เพื่อนำมาทำอาหาร คือ ต้องไม่ทำให้สัตว์เกิดความเครียด ตั้งแต่การขนส่ง จนถึงกระบวนการฆ่าสัตว์ที่ต้องทำในห้องปิดทีละตัว และจำเป็นมากๆ ที่จะต้องทำการเชือดอย่างรวดเร็ว ชนิดที่เรียกว่าไม่ทันรู้ตัว”

คุณโจ ย้ำ

ในฐานะที่เป็นเชฟมาก่อน คุณโจมั่นใจว่า เมื่อสามารถควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอนได้ เชฟหรือลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเขา ก็เชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ของแบรนด์ Sloane’s เพิ่มขึ้นเช่นกัน

“เนื้อจากหมูที่ได้รับการดูแล ใส่ใจในการเลี้ยงดูอย่างดี ย่อมให้ผลิตภัณฑ์เนื้อที่มีคุณภาพดี อย่างเช่นหมูสายพันธุ์ดำของฟาร์มแม่ฟ้าหลวง หมูที่นั่นกินแม้กระทั่งถั่วแมคคาเดเมีย หมูถูกเลี้ยงดูอย่างดีท่ามกลางธรรมชาติบนดอย ปราศจากสารเคมี ยาปฏิชีวะ สารเร่งการเจริญเติบโต ทำให้ได้เนื้อคุณภาพสูง ไขมันชนิดดี เวลาที่หั่นเนื้อ จะเห็นลวดลายของไขมันสวยชัดเจน เป็นเนื้อที่พิเศษจริงๆ”

ความน่าสนใจอีกอย่าง ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Sloane’s พิเศษ คือ สูตรอาหารที่เป็นสไตล์โฮมเมดแบบอังกฤษ นั่นเอง หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของที่นี่ก็เช่นกัน อย่างไส้กรอก หรือที่ขายดีที่สุด คือ เบคอน มีการสโมค การควบคุมอุณหภูมิ และการรีดน้ำ ใช้เวลาในการผลิตเป็นสัปดาห์ แน่นอนว่าย่อมต่างจาก ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่ผลิตแบบครั้งละมากๆ โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์โดยตรงจาก Sloane’s ผ่าน www.sloanes.co.th และ Facebook : Sloane’s รวมถึงในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอีกหลายแห่ง

ธุรกิจที่จัดการหรือส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์มีแนวโน้มที่จะรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดโลก

ที่โรงงานของ Sloane’s ทุกขั้นตอนจะควบคุมโดยบุคคลากรที่มีทักษะและความชำนาญ ผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ที่สร้างสรรค์โดย Sloane’s ได้รับความพิถีพิถัน ใส่ใจทุกขั้นตอน จากส่วนผสมที่ดีที่สุดในท้องถิ่น เพื่อป้อนเนื้อสัตว์คุณภาพดี ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด และเนื้อวัว และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้กับเพื่อนเชฟตามโรงแรมและร้านอาหารต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าตามบ้านที่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ และการเกษตรแบบออร์แกนิค รักษ์สิ่งแวดล้อม

“สมัยก่อนเชฟในโรงแรมชั้นนำต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าอาหารที่พวกเขาปรุงขึ้นอร่อย และเป็นจุดขายให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ลูกค้าบางราย ยังมีความต้องการเฉพาะด้าน เช่น เน้นเรื่องการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ก็จะเลือกเนื้อที่เน้นโปรตีนเยอะ ปัจจุบันค่านิยมของตลาดในประเทศไทยจึงเปลี่ยนไปมาก ลูกค้าจำนวนมากนิยมวัตถุดิบอาหารที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูง ทั้งผักออร์แกนิค และเนื้อสัตว์ที่ดูแลใส่ใจด้านสวัสดิภาพสัตว์อย่างดี เห็นได้ว่า แม้กระทั่งบริษัทผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ในประเทศก็หันทาทำผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เฉพาะกลุ่มที่ดูแลสวัสดิภาพสัตว์เยอะขึ้น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า”

จึงย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นความคิดของคุณโจอีกครั้ง นั่นคือ เมื่อผู้ผลิตเปลี่ยนความคิด ปรับปรุงแนวทางปฏิบัติต่อสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ด้วยความระมัดระวังและเคารพ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคเกี่ยวกับอาหารที่มาจากสัตว์ที่พวกเขาบริโภค

“การรู้จักแหล่งผลิตของอาหาร การได้ร่วมแรงร่วมใจกับตลาดในประเทศ สนับสนุนเกษตรกรรายย่อยที่ร่วมอุดมการณ์กับเรา ผมคิดว่ามันคือคำตอบ ของการพัฒนาเรื่องความยั่งยืนทางอาหาร ระบบสภาพแวดล้อม ที่สอดคล้องตามกลไกของธรรมชาติ คือหลักประกันของคุณภาพของอาหารและการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี”

คุณโจ กล่าวทิ้งท้าย