75 ปีแห่งความก้าวหน้าด้านสวัสดิภาพสัตว์: มุมมองของซีอีโอ

โดย ทริเซีย โครสดอล (Tricia Croasdell)

เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปีของเรา เราได้รับเกียรติให้นำเสนอข้อคิดเห็นจากซีอีโอของเรา ทริเซีย โครสดอล ในสื่อชั้นนำด้านกิจการเพื่อสังคมระดับโลกอย่าง FairPlanet

ในบทความนี้ ทริเซียได้แบ่งปันเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงตลอด 75 ปีในประวัติศาสตร์สวัสดิภาพสัตว์ พร้อมเล่าถึงประเด็นหลักที่องค์กรของเราดำเนินงานทั่วโลก ตั้งแต่แนวคิด One Health (สุขภาพหนึ่งเดียว), การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ, ไปจนถึงการหยุดการเอารัดเอาเปรียบสัตว์ป่า และปิดท้ายด้วยสารที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นว่า:

นี่คือช่วงเวลาของเรา 75 ปีแห่งประวัติศาสตร์ได้นำเรามาถึงจุดนี้ แต่ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรายังอยู่ข้างหน้า ร่วมกัน เราสามารถสร้างอนาคตที่สัตว์จะเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมาน รัฐบาลและบริษัทต้องรับผิดชอบ และความเมตตาเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจ

ในขณะที่ฉันเขียนบทความนี้ ประวัติศาสตร์กำลังถูกจารึกขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อประเทศต่างๆ เห็นชอบข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อโรคระบาด

ข้อตกลงนี้หมายถึงอะไรสำหรับมนุษย์ – และสำหรับสัตว์ที่องค์กรของเราทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้อง? ข้อตกลงที่มีผลผูกพันตามกฎหมายฉบับนี้รวมถึงองค์ประกอบสำคัญของการป้องกันโรค โดยรับรองแนวคิด "One Health" ที่ตระหนักว่าสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมเชื่อมโยงกัน ดังนั้นแนวทางแก้ไขใดๆ ควรเป็นประโยชน์ต่อทั้งสามสิ่ง ซึ่งนับว่าเป็นก้าวสำคัญ เพราะสวัสดิภาพสัตวมักถูกมองข้ามในการลดความเสี่ยงและปกป้องสุขภาวะของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

หลังช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 75 ปีก่อน ขณะที่โลกกำลังฟื้นตัวจากสงคราม มีการริเริ่มขบวนการคู่ขนานขึ้น เพื่อปกป้องผู้ที่เปราะบางที่สุดในสังคม: สัตว์

เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในปี 1964 เมื่อจอห์น วอลช์ จากสมาคมระหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองสัตว์ (ISPA) นำทีมช่วยชีวิตสัตว์กว่า 10,000 ตัวจากเหตุอุทกภัยรุนแรงในประเทศซูรินาเม ทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในภารกิจช่วยเหลือฉุกเฉินยุคแรกที่ต่อมาได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในยุคภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน

แนวคิดที่ดูเรียบง่ายแต่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — “สัตว์สมควรได้รับอิสรภาพจากความทุกข์ทรมาน” — นำไปสู่การควบรวมของ ISPA กับสมาพันธ์โลกเพื่อการคุ้มครองสัตว์ (WFPA) ในปี 1975 และกลายมาเป็น “World Animal Protection” อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ในยุคที่โลกเผชิญกับภาวะโลกร้อน การทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย การทำฟาร์มเชิงอุตสาหกรรม และการค้าสัตว์ป่า ภารกิจของเรายิ่งทวีความสำคัญขึ้น

วิกฤตสภาพภูมิอากาศ: วิกฤตสวัสดิภาพสัตว์

เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งล่าสุดที่เชียงใหม่ ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์อย่างชัดเจน อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวน และการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย กำลังผลักดันให้สัตว์หลายสายพันธุ์เสี่ยงสูญพันธุ์ ไม่เพียงแต่สัตว์ป่าเท่านั้น สัตว์ในระบบฟาร์มก็ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศสุดขั้วเช่นกัน

การปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์หมายถึงการแก้ไขระบบอาหารโลกอย่างเป็นระบบ การทำฟาร์มอุตสาหกรรมทำให้สัตว์หลายพันล้านตัวต้องทนทุกข์ทรมาน ทั้งยังเร่งภาวะโลกร้อน สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า

เรากำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านความร่วมมือกับผู้ผลิตและร้านค้าปลีกอาหาร เพื่อยกระดับมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ เข้าร่วมกระบวนการของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักว่าการเลือกบริโภคอาหารจากพืชมีส่วนช่วยโลกได้จริง

วิกฤตสัตว์ป่า: วิกฤตระดับโลก

การเอารัดเอาเปรียบสัตว์ป่าเกิดขึ้นในระดับที่น่าตกใจ รายงานล่าสุดของเรา Bred for Profit เผยว่ามีสัตว์ป่ากว่า 5.5 พันล้านตัวต้องใช้ชีวิตภายใต้สภาพที่โหดร้ายในฟาร์มเชิงพาณิชย์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงหายาก ใช้ในการแสดง หรือถูกฆ่าเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่น ยาแผนโบราณ และของฟุ่มเฟือย

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็มีส่วนทำให้เกิดความทุกข์ทรมานนี้เช่นกัน สิงโต โลมา และช้างถูกจับมาจากป่าหรือเพาะพันธุ์ในกรงขังเพื่อความบันเทิงของมนุษย์ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายที่สัตว์ต้องทนทุกข์ในกรงขัง ผ่านการรณรงค์ การสร้างความตระหนักรู้ และกดดันภาคธุรกิจ

75 ปีแห่งผลกระทบ: ฐานที่มั่นสำหรับอนาคต

แม้จะมีความท้าทายมากมาย แต่เราก็ประสบความสำเร็จในหลายด้าน

• ปี 2012 เราช่วยเชื่อมโยงสวัสดิภาพสัตว์กับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่การประชุม Earth Summit

• ปี 2022 สมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEA) รับรองแนวทาง "สวัสดิภาพสัตว์ – สิ่งแวดล้อม – การพัฒนาอย่างยั่งยืน"

• เรามีบทบาทสำคัญผลักดันให้ G20 ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างการค้าสัตว์ป่ากับโรคระบาด นำไปสู่การเจรจา WHO Pandemic Agreement

เรายังช่วยผลักดันนโยบายสำคัญ เช่น

• ยุติอุตสาหกรรมดีหมีในเกาหลีใต้ และลดขนาดในเวียดนาม

• สนับสนุนการแบนขนสัตว์ในวงการแฟชั่น รวมถึงการห้ามใช้ขนนกใน Melbourne Fashion Week ปี 2024 และแบนหนังสัตว์หายากใน London ปี 2025

• ปี 2021 และยืนยันอีกครั้งในปี 2024 รัฐบาลแอฟริกาใต้ประกาศปิดฟาร์มสิงโตขังทั้งหมด

• โครงการ Wildlife Heritage Areas ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่รับผิดชอบ

เส้นทางข้างหน้า: อนาคตปราศจากความโหดร้าย

ผลลัพธ์ที่เราสร้างมาแสดงให้เห็นว่า "การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้จริง" แต่เราต้องไม่ประมาท ระบบที่ก่อให้เกิดความโหดร้ายต่อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นฟาร์มอุตสาหกรรม การค้าสัตว์ป่า หรือการทำลายสภาพภูมิอากาศนั้นฝังรากลึก การเปลี่ยนแปลงต้องอาศัยความกล้า ความสม่ำเสมอ และความร่วมมือระดับโลก

นี่คือช่วงเวลาของเรา 75 ปีแห่งประวัติศาสตร์ได้นำเรามาถึงจุดนี้ แต่ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรายังอยู่ข้างหน้า ร่วมกัน เราสามารถสร้างอนาคตที่สัตว์จะเป็นอิสระจากความทุกข์ทรมาน รัฐบาลและบริษัทต้องรับผิดชอบ และความเมตตาเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจ

เมื่อมองไปยังอนาคต ฉันมั่นใจเพียงสิ่งเดียว: เราจะไม่หยุด จนกว่าสัตว์ทุกตัวจะได้รับการปกป้อง เราทำเพื่อพวกเขา เพื่อพวกเรา และเพื่อโลกที่งดงามใบนี้