คลองไผ่ฟาร์ม (Klong Phai Farm)

“คลองไผ่ฟาร์ม” ส่งต่อการให้ความเคารพในอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดี

ข่าว

สวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม นับเป็นปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสัตว์ปีกและผู้ผลิตสัตว์ปีก แม้ว่าคนนอกภาคเกษตรกรรมอาจไม่เข้าใจแนวทางการผลิตในปัจจุบัน แต่แรงกดดันทางสังคมที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้า กลุ่มผู้บริโภค นักเคลื่อนไหวเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ และอื่นๆ กำลังเรียกร้องให้มีการรับรองสวัสดิภาพสัตว์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อ ผลักดันให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกต้องกลั่นกรองพัฒนาวิธีการผลิต โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ในกรง การกักเก็บอาหารสัตว์ การบังคับให้ฮอร์โมน ความหนาแน่นของจำนวนไก่ในเล้า การฆ่า การจับ และการจัดการขนส่ง

ทว่าหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจที่ดูแลสวัสดิภาพของสัตว์ในฟาร์ม นั้นขึ้นอยู่กับค่านิยมและทัศนคติของผู้ผลิตและเกษตรกรเป็นสำคัญ สำหรับผู้ผลิตเนื้อสัตว์ปีกคุณภาพสูง คลองไผ่ฟาร์ม มีหลักการและค่านิยม คือ “การเคารพชีวิตต่อชีวิต”

คลองไผ่ฟาร์ม (Klong Phai Farm)

การเคารพชีวิตซึ่งกันและกัน

“เราเคารพชีวิตของตัวเรา และเราเคารพชีวิตของทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เราต้องการบริโภคอาหารที่มีคุณภาพดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะเราต้องการมีสุขภาพดี ที่ฟาร์มของเราจึงไม่ได้เลี้ยงสัตว์เพียงเห็นว่าเป็นสัตว์เพื่อให้เรากินเนื้อ แต่เรามองว่าเป็นสิ่งมีชิวิต ที่ต้องการมีชิวิตดี กินดี อยู่สบาย แข็งแรง ไม่เป็นโรคเช่นกัน เมื่อนั้นการทำธุรกิจแบบของเรา จึงไม่ได้มองที่ผลกำไรเป็นที่สุด แต่เป็นการทำธุรกิจ ที่เคารพชีวิต สวัสดิภาพการดำรงชีวิต ไปจนถึงขั้นตอนการเตรียมอาหาร การปรุง สุดท้ายเพื่อคุณภาพของการบริโภค”

คุณโลร็องต์ อ๊อพพอทูน (Laurent Opportune) เจ้าของและซีอีโอของบริษัทโปรซัน ฟาร์ม จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าเนื้อสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด ไก่งวง นกกระทา และผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “คลองไผ่ฟาร์ม” ก่อตั้งขึ้นในปี 2017

เป็นเวลากว่าสามทศวรรษที่คุณโลร็องต์ ชาวฝรั่งเศส เดินทางมาอยู่ที่ประเทศไทย จนกลายเป็นบ้านอีกหลังของเขา ประมาณ 15 ปีที่แล้ว เค้าเริ่มเห็นโอกาสทางธุรกิจเลี้ยงไก่ระบบปล่อย เนื่องจากความสนใจที่ต้องการดูแลสุขภาพและโภชนาการของตนเอง โดยการบริโภคเนื้อไก่ที่มีโปรตีนธรรมชาติ ปราศจากฮอร์โมน เขาจึงเริ่มรู้จักกับเกษตรรายย่อย และสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่า ถึงแม้เกษตรกรไทยจะทำได้ดีในการเลี้ยงปศุสัตว์คุณภาพสูง แต่ก็ค่อนข้างมีปัญหาในองค์ประกอบทางธุรกิจที่สำคัญ เช่น การตลาดและการขาย ทั้งการทำฟาร์มก็ใช้เทคนิคที่ล้าสมัย

เขาและภรรยาจึงตัดสินใจนำเทคนิคการปศุสัตว์แบบดั้งเดิมจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อมาพัฒนา ช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับเขา และทำให้พวกเขามีความได้เปรียบในการแข่งขันสูง เหนือคู่แข่งที่มีอยู่ อย่างไรก็ดี เกษตรกรที่จะมาทำงานร่วมกับคลองไผ่ฟาร์มได้นั้น แน่นอนว่าต้องเป็นกลุ่มคนที่มีจิตใจและปณิธานแบบเดียวกัน คือ ต้องเคารพชีวิตของกันและกัน

“เราไม่เพียงแค่ทำการตลาด จัดจำหน่ายเนื้อสัตว์ปีก แต่เราช่วยเกษตรกรในทุกด้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาเช่นกัน ทั้งการให้ความรู้ด้านปศุสัตว์แบบธรรมชาติ การบริหารจัดการฟาร์ม และการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน เป้าหมายระยะยาว คือ การรักษาความยั่งยืนของการผลิตเนื้อสัตว์ปีกด้วยระบบธรรมชาติ”

คุณโลร็องต์ กล่าว

คลองไผ่ฟาร์ม (Klong Phai Farm)

กินอาหารดี เลี้ยงแบบปล่อย และป้องกันโรคด้วยสมุนไพร

ความหลงใหลในคุณภาพอาหารที่ดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารฝรั่งเศสที่เลื่องชื่อ นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จของคลองไผ่ฟาร์ม สินค้าของฟาร์มได้รับการตอบรับอย่างดีจากเชฟที่มีชื่อเสียงระดับมิชลินสตาร์ในโรงแรมหรูและร้านอาหารชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงผู้บริโภคจำนวนมากที่รู้สึกประทับใจ เมื่อทราบว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของคลองไผ่ฟาร์ม เป็นไก่เลี้ยงแบบธรรมชาติ มีอิสระ ปราศจากฮอร์โมนและยาปฎิชีวนะทั้งหมด

ไก่ของคลองไผ่ฟาร์ม เป็นไก่พันธุ์ผสมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเป็นพิเศษ ไก่เลี้ยงอย่างอิสระตามระบบ free range ที่ฟาร์มขนาด 37 เอเคอร์ ตั้งอยู่บนเนินเขา ในจังหวัดนครราชสีมา ไก่จึงถูกเลี้ยงอยู่บนฟาร์มกว้าง และถูกปล่อยให้คุ้ยเขียหาอาหารที่อยู่บนพื้นดินตามธรรมชาติ โดยอาหารสัตว์ที่นำมาโรยเพิ่มเติมจะประกอบด้วย ธัญพืชต่างๆ ที่เป็น Non-GMOs เช่น ข้าวโพดและปลายข้าวออร์แกนิค ที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ให้พลังงานสูง กากถั่วเหลือง ใบกระถิน จิ้งหรีด ปลวก และหนอนเพื่อเพิ่มโปรตีน รำข้าว เพื่อเพิ่มวิตามิน ดังนั้นผลผลิตที่ได้ คือ เนื้อไก่ที่มีคุณภาพสูง มีโปรตีนและมีคอลลาเจนมาก แต่ให้ไขมันต่ำ เนื้อไก่มีรสชาติอร่อย เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำกว่าเนื้อไก่ธรรมดาทั่วไป

นอกจากนี้ ด้วยวิธีการเลี้ยงที่เอาใจใส่ ที่ฟาร์มยังให้ความสำคัญกับการให้อาหารที่ผสมสมุนไพรเพื่อป้องกันโรค มากกว่าการใช้ยาเพื่อรักษาโรค

คลองไผ่ฟาร์ม (Klong Phai Farm)

การแข่งขันในตลาด 

สวัสดิภาพสัตว์ปีกมีความสำคัญทั้งด้วยเหตุผลทางจริยธรรมและในทางปฏิบัติ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ปีก ดังนั้นผู้ผลิตที่รับประกันสวัสดิภาพที่ดีจะเข้าถึงตลาดได้ดีขึ้น ในระบบสัตว์ปีกแบบเข้มข้น มีความก้าวหน้าอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในการพัฒนาวิธีการวัดสวัสดิภาพสัตว์ปีก

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มาตรการที่สามารถใช้ตรวจสอบสวัสดิภาพของไก่ไข่และไก่เนื้อในฟาร์มเชิงพาณิชย์ได้ การวัดผลที่ถูกต้องแม่นยำเป็นก้าวแรกสู่การปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ เพราะมีแรงจูงใจทางเศรษฐกิจ

ที่คลองไผ่ฟาร์ม คุณโลร็องต์เน้นถึงแนวทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ว่า

“เราแบ่งไก่ที่พร้อมจำหน่ายเป็น 2 ประเภท แบบที่เลี้ยง 60 วัน กับ 80 วัน เพราะเราไม่ผลิตจำนวนมาก แต่มุ่งเป้าไปที่คุณภาพแทน เราจึงการันตีได้ว่าไก่ของเราไม่มีการใช้ฮอร์โมนช่วยเร่งโต นอกจากนั้น เราจะเลี้ยงสัตว์ตามที่มีการวางแผนหรือสั่งล่วงหน้า เช่น ช่วงนี้ใกล้จะถึงเทศกาลคริสมาสต์ ตามร้านอาหารจะมีการบริโภคเนื้อไก่จำนวนมาก เราก็จะต้องคุยกับเจ้าของร้านอาหารหรือพ่อครัว เพื่อเตรียมการแต่เนิ่นๆ และจะฆ่าสัตว์เมื่อได้รับคำสั่งเท่านั้น การทำธุรกิจแบบนี้ จึงต่างจากการผลิตเนื้อสัตว์เพื่อขายแบบอุตสาหกรรม ความสำเร็จของเราในทุกวันนี้ คือการที่เราเคารพชีวิตของสัตว์ที่เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าราคาซื้อขาย ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจซื้อสินค้าสำหรับผู้บิรโภค ในการเลือกซื้อผลผลิตแบบอินทรีย์หรือออร์แกนิค คือ ความคุ้มค่าของราคา

“ถ้าคิดกันตามจริงเนื้อสัตว์ตามธรรมชาติ จะทำให้มีน้ำหนักเท่าๆ กันทุกตัวคงยาก แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่ในอุตสาหกรรม สามารถทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่น้ำหนักเท่ากันทุกตัวได้ ผู้บริโภคจึงต้องตัดสินใจให้รอบคอบ”

ด้วยหลักการคิดเช่นนี้ คุณโลร็องต์จึงยืนหยัดที่จะไม่ผลิตสัตว์จำนวนมาก แต่มุ่งเป้าไปที่คุณภาพแทน นี่คือเหตุผลที่บริษัททำงานเฉพาะกับเกษตรกรรายย่อยที่สอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายที่เขาและภรรยาตั้งใจที่ทำให้ฟาร์มคลองไผ่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ คือ การเคารพสัตว์ที่เลี้ยง มีมนุษยธรรมในการฆ่า เคารพผู้บริโภค เคารพสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันฟาร์มคลองไผ่ภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมเชฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก Auguste Escoffier ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกใน 30 ประเทศทั่วโลก คลองไผ่ฟาร์มได้รับการรับรองในมาตรฐานการผลิตที่เข้มงวดที่สุด และสามารถผลิตสินค้าที่ดีที่สุดในตลาดในประเทศไทย ด้วยความเชื่อมั่นในการเกษตรแบบยั่งยืนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและเป็นที่ยอมรับของสังคม

ในการเลี้ยงสัตว์และผลิตผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีก สิ่งแวดล้อมที่ดี อากาศบริสุทธิ์ อาหารและดินที่ดีล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็น ความยั่งยืนในอุตสาหกรรมสัตว์ปีก หมายถึง ผลิตภัณฑ์ของคลองไผ่ฟาร์มจึงมั่นใจได้ว่า จะใช้เฉพาะส่วนผสมจากธรรมชาติเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ส่วนอาหารพร้อมรับประทาน จะปราศจากสารปรุงแต่งและวัตถุกันเสีย ส่งผลให้อาหารไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทางโภชนาการแต่ยังมีรสชาติที่อร่อย นอกจากนี้ เพื่อส่งต่อความยั่งยืนทางอาหารและธุรกิจ ที่คลองไผ่ฟาร์มเชิญชวนให้ลูกค้าสามารถนำแผงไข่ของที่ไหนก็ได้นำกลับมาคืนเพื่อรีไซเคิล ทุกๆ 1 กล่องไข่ที่รับคืน คลองไผ่ฟาร์มจะบริจาคเงินช่วยเหลือ

สนใจข้อมูลเพิ่ม https://www.klongphaifarm.com/

ความสำเร็จของเราในทุกวันนี้ คือการที่เราเคารพชีวิตของสัตว์ที่เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง