Nine bears rescued in Vietnam 03

หมีควาย 9 ตัว หลุดพ้นจากฟาร์มดีหมีในเวียดนามแล้ว

ข่าว

ภารกิจช่วยเหลือหมีครั้งใหญ่ที่สุดที่ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เคยให้การสนับสนุน เมื่อกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2565 มอบชีวิตใหม่แก่หมีควาย 9 ตัวที่ถูกกักขังในฟาร์มรีดดีหมี 3 แห่งทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม

การรีดน้ำดีจากหมีควายถูกประกาศให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในปี 2548 แต่มีช่องโหว่ที่ทำให้ชาวบ้านกักขังหมีควายไว้เป็น “สัตว์เลี้ยง” และยังพบหมีควายถูกกักขังในฟาร์มผลิตดีหมี 

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ทำงานร่วมกับหน่วยงานส่วนกลางที่ทำหน้าที่ปกป้องพื้นที่ป่าไม้ของเวียดนาม (FPD) เพื่อฝังไมโครชิพหมีและปฏิบัติการเฝ้าระวัง

หลังหมีถูกฝังไมโครชิพแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบจำนวน 2 ครั้งในหนึ่งปี เพื่อป้องกันไม่ให้มีหมีตัวใหม่ตกเป็นเหยื่อของอุตสาหกรรมดีหมี ความพยายามนี้ยังส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมีค่อย ๆ เลิกทำฟาร์มและส่งมอบหมีให้กับศูนย์อนุรักษ์

ภารกิจช่วยเหลือ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ร่วมทำงานกับเจ้าของฟาร์มดีหมี 3 แห่ง เพื่อโน้มน้าวให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมีส่งมอบให้แก่ศูนย์อนุรักษ์หมี แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ภารกิจช่วยเหลือหมีที่ผ่านมาต้องหยุดชะงักลง การถูกกักขังหลังกรงคับแคบในที่มืดและต้องทนอดอาหารเป็นเวลานานหลายปีทำให้สภาพของหมีแต่ละตัวผอมและอิดโรยอย่างมาก

หลังเจรจากันอยู่นาน เกษตรกรผู้เลี้ยงหมีตัดสินใจส่งมอบหมีทั้ง 9 ตัวให้กับทางการ จังหวัดบิ่ญเซือง และถูกส่งมอบต่อให้กับศูนย์อนุรักษ์หมี ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กร FOUR PAWS ใน จังหวัดนิญบิ่ญ ระหว่างวันที่ 10 – 11 กุมภาพันธ์ 2565

Nine bears rescued in Vietnam 01

เจ้าหน้าที่วางยาสลบหนึ่งในหมีที่ถูกช่วยเหลือออกมาจากฟาร์ม Huynh Thi My (Thanh Canh) เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย ก่อนนำขึ้นรถบรรทุก (เครดิตรูปภาพ: องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก)

ทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มดีหมี 2 แห่ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 โดยที่ฟาร์ม Vu Van Hien ทีมเจ้าหน้าที่วางยาสลบหมีเพศเมีย น้ำหนักตัว 190 กิโลกรัม และหมีเพศผู้ น้ำหนักตัว 185 กิโลกรัม เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายก่อนการขนย้าย ในขณะที่หมีจำนวน 4 ตัวจากฟาร์ม Nguyen Ngoc Tien ซึ่งเจ้าของฟาร์มยินดีส่งมอบให้ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ต้องใช้วิธีการวางยาสลบในการขนย้ายพวกมัน และพวกมันก็ดูตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งใหม่

ในวันต่อมา (11 กุมภาพันธ์) ทีมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือหมีอีก 3 ตัวจากฟาร์ม Huynh Thi My และวางยาสลบเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของหมีแต่ละตัวก่อนทำการเคลื่อนย้าย การเลี้ยงดูที่ย่ำแย่ส่งผลให้พวกมันตัวเล็กมาก และมีน้ำหนักเพียงแค่ประมาณ 50 – 60 กิโลกรัม เท่านั้น โดยเจ้าของฟาร์มได้กล่าวว่า เขาหวังว่า หมีทั้งหมดจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

Nine bears rescued in Vietnam 01

หนึ่งในหมีที่ได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์ม Nguyen Ngoc Tien หมีทั้งหมด 4 ตัวถูกส่งมอบไปยังบ้านหลังใหม่ โดยพวกมันไม่ได้ถูกวางยาสลบระหว่างเดินทาง (เครดิตรูปภาพ: องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก)

Maya Pastakia ผู้จัดการแคมเปญ สัตว์ป่า ไม่ใช่ยา จากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก กล่าวว่า:

นี้คือภารกิจช่วยเหลือหมีครั้งใหญ่ที่สุดที่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเคยให้การสนับสนุน ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้หมายความว่า เรากำลังเข้าใกล้ความสำเร็จในการปิดฟาร์มดีหมีทั่วประเทศเวียดนาม

ระหว่างทางเพื่อไปสู่เป้าหมายการปิดฟาร์มดีหมีในประเทศเวียดนาม ยังมีหมีอีกหลายพันตัวที่ยังต้องทนทรมานกับการถูกกักขังเพื่อรีดเอาน้ำดีหมี หมี 9 ตัวที่เราช่วยมาต้องใช้ชีวิตอยู่หลังกรงขนาดเล็ก มีขนาดไม่ต่างจากตู้โทรศัพท์ เป็นเวลาอย่างน้อย 17 ปี จนกระทั่งพวกมันถูกฝังไมเครชิพ แม้พวกมันเป็น “หมีที่โชคดี” ที่รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานนี้ แต่บาดแผลจากการถูกทำร้ายทางร่างกายและจิตใจและฝั่งลึกไปตลอดชั่วชีวิตของพวกมัน

เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามอุดช่องโหว่ทางกฎหมายทั้งหมด และสั่งห้ามไม่ให้มีการเลี้ยงหมีเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อยุติอุตสาหกรรมดีหมีอย่างผิดกฎหมายและโหดร้ายให้หมดไป

หมีทั้ง 9 ตัวจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ปราศจากการถูกทารุณกรรมและความทุกข์ทรมานในศูนย์อนุรักษ์หมีภายใต้การดูแลขององค์กร Four Paws โดยมีทีมเจ้าหน้าที่คอยดูแลและสรรสร้างสิ่งแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดให้พวกมัน ในปี 2548 มีหมีทั้งหมด 4,300 ตัวถูกกักขังในฟาร์มรีดดีหมี แต่ในปัจจุบัน จำนวนหมีในฟาร์มดีหมีนั้น ลดลงเหลือน้อยกว่า 314 ตัว หรือคิดเป็น 93% ภารกิจช่วยเหลือหมี 9 ตัวนี้ ช่วยให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จในการปิดฟาร์มดีหมีทั่วประเทศเวียดนาม

Magdalena Scherk-Trettin เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการหมี องค์กร FOUR PAWS กล่าวว่า:

“ภารกิจนี้นับเป็นภารกิจช่วยเหลือหมีครั้งใหญ่มากที่สุดสำหรับองค์กร FOUR PAWS เราตื่นเต้นที่จะได้มอบโอกาสในการใช้ชีวิตใหม่ที่ศูนย์อนุรักษ์ของเราใน จังหวัดนิญบิ่ญ ที่เหมาะสมกับสายพันธุ์ของหมีทั้งหมด 9 ตัว

ทีมเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์ของเราจะดูแลสมาชิกใหม่ 9 ตัว เพื่อช่วยเยียวยาบาดแผลจากการถูกกระทำในอดีต ก่อนหน้านี้ เราช่วยหมี 18 ตัวจาก จังหวัดบิ่ญเซือง ซึ่งภารกิจเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้ สะท้อนเห็นว่า เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดทำงานอย่างหนักเพื่อไปสู่เป้าหมายยุติการทำฟาร์มดีหมีทั่วประเทศที่รัฐบาลได้ตั้งไว้

การช่วยเหลือหมีในแต่ละครั้ง ช่วยทำให้เราเข้าใจเป้าหมายการกวาดล้างฟาร์มดีหมีทั่วประเทศเวียดนาม เราตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันที่เราจะเข้าช่วยเหลือหมีตัวสุดท้ายจากฟาร์มดีหมีของเวียดนาม โดยเจ้าหน้าที่ในจังหวัดฮานอยต้องเร่งดำเนินการเพื่อไปถึงเป้าหมายนี้ให้ได้”

เข้าใกล้ความสำเร็จของการปิดฟาร์มดีหมีทั่วประเทศเวียดนาม

อุตสาหกรรมฟาร์มดีหมีเป็นการทารุณกรรมสัตว์ที่โหดร้ายมากที่สุดในโลกปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้หมีเจ็บปวดทรมานจากกระบวนการรีดดีหมี เนื่องจากเรามียาสมุนไพร หรือทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยและราคาไม่แพง

ภารกิจช่วยเหลือหมีครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ฉลองครบรอบ 30 ปีให้กับภารกิจช่วยเหลือและปกป้องหมี ในช่วงเวลานี้ เราได้ช่วยเหลือหมี และส่งมอบพวกมันไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เราช่วยออกแบบและให้เงินสนับสนุนจำนวน 12 แห่งทั่วโลก ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ทำงานช่วยเหลือหมีจากการถูกกักขังหลังกรงใน 25 ประเทศ ควบคู่ไปกับการทำหมัน โครงการรณรงค์ผู้บริโภคและสาธารณชน รวมถึงการโน้มน้าวการกำหนดนโยบายของรัฐ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก จะปฏิบัติภารกิจนี้ไปจนกระทั่งไม่มีฟาร์มรีดดีหมีหลงเหลืออยู่ในประเทศเวียดนาม

รู้จักภารกิจยุติอุตสาหกรรมฟาร์มดีหมีของเรา

 

รัฐบาลเวียดนามต้องอุดช่องโหว่ทางกฎหมายทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวบ้านกักขังหมีไว้เป็นสัตว์เลี้ยงในกรง และช่วยให้หมีหลุดต้นจากอุตสาหกรรมดีหมีที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและผิดกฎหมาย