World Animal Protection Thailand

บริษัทการท่องเที่ยวไทยรายแรกแสดงเจตนารมณ์ยุติการท่องเที่ยวขี่ช้าง

ข่าว

แคมเปญรณรงค์เพื่อยุติการทำทารุณกรรมช้างในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวแล้วกว่า 100 บริษัทจากทั่วโลกและรวมถึงบริษัทไทยรายแรกที่แสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมโครงการเพื่อยุติความทารุณโหดร้ายนี้

บริษัท SpiceRoads จำกัดนับเป็นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยรายแรกที่แสดงความมุ่งมั่นที่จะหยุดการขายหรือประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวที่นำเสนอการขี่ช้างหรือการแสดงช้าง

เพื่อที่จะยุติความทารุณโหดร้ายนี้ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพื่อขอความร่วมมือในยุติการนำนักท่องเที่ยวมายังสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้บริการขี่ช้าง หรือการแสดงช้างแก่นักท่องเที่ยว

การทำให้ช้างเชื่องจนยอมให้คนขี่หรือมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบอื่นๆกับคนได้นั้น พวกมันจะต้องถูกพรากจากแม่ของมันตั้งแต่ยังเล็ก และถูกจับเข้ากระบวนการ ”เข้าคอก” ที่นำมาซึ่งความทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากการถูกล่าม การถูกตีให้เจ็บปวด การถูกอดอาหารและน้ำ ในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังขี่ช้างนั้น พวกมันอาจดูสงบและเชื่อฟังเนื่องจากมันได้ถูกทำให้ลืมสัญชาตญาณตามธรรมชาติจนหมดสิ้น และตะขอที่คอยสับลงมานั้นจะคอยเตือนมันว่ามันได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของมนุษย์ไปเรียบร้อยแล้ว

ความทารุณโหดร้ายนี้ไม่ได้สิ้นสุดที่กระบวนการเข้าคอก เมื่อพวกมันไม่ต้องทำการแสดงหรือให้คนขึ้นขี่ พวกมันก็ถูกล่ามโซ่ไว้ตลอดเวลา ปล่อยไว้ในกรงขังแคบๆที่ซึ่งพวกมันไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับช้างตัวอื่นๆได้ตามธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำร้ายช้างทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง

คุณสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร ผู้รับผิดชอบการรณรงค์โครงการนี้ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เราต้องทำให้นักท่องเที่ยวเลิกไปท่องเที่ยวในสถานที่เหล่านี้ เพื่อที่จะทำให้การท่องเที่ยวขี่ช้างและการแสดงช้างสิ้นสุดลงได้ ผมเคยพบเห็นช้างที่ถูกทรมานอย่างแสนสาหัสในสถานที่เหล่านี้ และนับเป็นสัญญาณถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าไม่ควรสนับสนุนสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำทารุณกรรมช้างในแพ็คเก็จการท่องเที่ยวของบริษัทพวกเขาอีกต่อไป”

เขายังเสริมอีกว่า “องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกอยากเห็นความโหดร้ายทารุณนี้สิ้นสุดลง แต่เรายังต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดตามมากับสัตว์ที่ถูกเลี้ยงในสถานที่เหล่านี้และอนาคตของพวกมัน เราจึงทำงานหนักเพื่อค้นหาผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่พร้อมจะเดินหน้าไปอีกขั้น โดยการลงทุนพัฒนาปางช้างที่มีอยู่ให้กลายเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ที่ปลอดภัยและมีมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้น สถานที่ซึ่งสัตว์ต่างๆจะมีชีวิตอยู่อย่างอิสระและสามารถมีพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกมันได้มากที่สุด แม้ว่าจะไม่สามารถปล่อยพวกมันกลับคืนสู่ป่าได้อีกแล้วก็ตาม”