30 ปี กับภารกิจปกป้องหมี ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ข่าว
ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์กรอนุรักษ์สัตว์และผู้สนับสนุน เพื่อยุติการทารุณกรรมหมี
ในปี 2535 องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เปิดตัว โครงการ Libearty หลังพบการทารุณกรรมและการเอาเปรียบชีวิตหมีระหว่างการลงพื้นที่สำรวจทั่วทวีปเอเชีย
มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจ 30 ปี เพื่อยุติการทารุณกรรมหมี
ในปีเดียวกัน องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก เกิดแนวคิดการก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์หมี ซึ่งถือเป็นแนวคิดแรกของโลกที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรพื้นที่คุ้มครองเพื่อให้หมีสามารถใกล้ชิดธรรมชาติ และปลอดภัยจากกิจกรรมการทารุณกรรมสัตว์ทุกรูปแบบ
การดำเนินภารกิจดังกล่าว ช่วยให้ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก สามารถช่วยหมีจากการถูกกักขัง พร้อมมอบบ้านหลังใหม่ที่ปลอดภัยให้กับพวกมันได้สำเร็จ
หลังจากนั้น ในปี 2536 เราตีแผ่ความโหดร้ายของชีวิต “หมีเต้นระบำ” ในนประเทศกรีซและตุรกี และเริ่มเดินหน้าโครงการรณรงค์ยุติการทารุณกรรมหมี ความโหดร้ายที่เราเผยแพร่สู่สาธารณชนเป็นเคสที่เกิดขึ้นแค่ในปีแรกของงานรณรงค์เราเท่านั้น
ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์กรอนุรักษ์สัตว์และผู้สนับสนุน เพื่อยุติการทารุณกรรมหมี
ในปี 2536 เราเปิดโปงเบื้องหลังกีฬา Bear Baiting และเริ่มเดินหน้าโครงการรณรงค์ในระดับสากลเพื่อกดดันให้รัฐบาลปากีสถานยุติกีฬาอันโหดร้ายนี้
นอกจากนี้ เราและองค์กร Bioresource Research Centre (BRC) เดินหน้าขับเคลื่อนโครงการยุติกีฬาเหยื่อหมีอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยเริ่มต้นจากการริเริ่มโครงการพัฒนาทางเลือกในการดำรงชีวิตสำหรับเจ้าของหมี และเปิดศูนย์อนุรักษ์หมีภายใต้ชื่อ Balkasar ต่อมาในปี 2562 เราไม่พบรายงานกีฬาโหดร้ายดังกล่าวในประเทศปากีสถานอีกเลย
ยับยั้งอุตสาหกรรมดีหมี
ในปีเดียวกัน เราเริ่มตรวจสอบเบื้องหลังอุตสาหกรรมดีหมีในเอเชีย จนพบว่ามีหมีหลายพันตัวยังตกเป็นเหยื่อของฟาร์มดีหมีอันโหดร้าย เพื่อนำถุงน้ำดีมาใช้ทางการแพทย์แผนโบราณ
ความพยายามช่วยหมีจากฟาร์มดีหมีนับเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจครั้งสำคัญของเราในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้หมีรอดพ้นจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมานและกำจัดอุตสาหกรรมฟาร์มดีหมี
ในประเทศเวียดนาม เราร่วมกับองค์กร Education for Nature Vietnam (ENV) เพื่อสนับสนุนการปิดฟาร์มดีหมี ฝังไมโครชิพให้กับหมีที่ถูกกักขังในฟาร์ม และเฝ้าระวังตรวจสอบอยู่เป็นระยะ จนกระทั่งจำนวนหมีในฟาร์มดีหมีทั่วประเทศลดลงไปมากกว่า 90% ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เรายังให้การสนับสนุนปฏิบัติการช่วยเหลือหมีที่ใหญ่ที่สุด โดยหมีทั้งหมด 9 ตัวจะถูกส่งมอบไปยังศูนย์อนุรักษ์ที่ที่พวกมันจะได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด
ในขณะเดียวกัน เรายังร่วมกับองค์กร Together with Green Korea United (GKU) ในการกระตุ้นให้ประชาชนออกมาสนับสนุนการยุติอุตสาหกรรมดีหมีและโน้วน้าวการกำหนดนโยบายของภาครัฐตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศยุติการทำฟาร์มดีหมีอย่างเป็นทางการ
ส่วนในประเทศจีนนั้น เราทำงานกับองค์กรหุ้นส่วนสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนโบราณ และผู้บริโภคในการยุติอุตสาหกรรมดีหมี โดยดำเนินโครงการรณรงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันไปเลือกใช้การแพทย์ทางเลือก และไม่ต้องข้องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอันโหดร้ายนี้
เปลี่ยนโลกของหมีในอีก 30 ปีข้างหน้า
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก และองค์กรหุ้นส่วนของเราทั่วโลกได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์อนุรักษ์หมีในประเทศกรีซ ตุรกี ฮังการี ไทย ปากีสถาน โรมาเนีย และในอีกหลายประเทศทั่วโลก
เราสนับสนุนการปิดสวนหมีหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่เราทำการตรวจสอบครั้งแรกในปี 2535 เราไม่พบหมีเต้นระบำอีกในประเทศกรีซ ตุรกี และอินเดียอีกต่อไป ส่วนกีฬา Bear baiting กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้วสำหรับประเทศปากีสถาน ในขณะที่ฟาร์มดีหมีถูกกวาดล้างไปหมดแล้วในประเทศเกาหลีใต้ และอุตสาหกรรมเหี่ยมโหดนี้กำลังจะหายไปประเทศเวียดนาม
เรายังมีอีกหลายเรื่องราวความสำเร็จที่อยากแบ่งปัน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีหมีจำนวนมากทั่วโลกที่ยังรอให้เราเข้าไปช่วยเหลือ
มาร่วมภารกิจปกป้องหมีต่อเนื่องไปอีก 30 ปี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของหมี ยุติความโหดร้ายและการทำทารุณกรรมหมีให้หมดสิ้นไปอย่างถาวร เพื่อให้หมีได้ใช้ชีวิตในป่าอย่างอิสระตามที่มันควรได้รับ