Fire damaged trees and landscape

คู่มือการประชุมรัฐภาคีว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP) ปี 2025 COP คืออะไร

ข่าว

การประชุมรัฐภาคี หรือ Conference of the Parties (COP) คือการประชุมประจำปีของคณะผู้กำหนดนโยบายภายใต้องค์กรสหประชาชาติว่าด้วยกรอบอนุสัญญาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)

ซึ่งเป็นเวทีที่ผู้นำประเทศ ผู้กำหนดนโยบาย นักวิทยาศาสตร์ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคมจากทั่วโลกมารวมตัวกัน เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และเจรจาเพื่อกำหนดพันธะสัญญาใหม่

สำหรับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) การประชุม COP เป็นโอกาสสำคัญในการเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ โดยเน้นให้เห็นว่า อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม (industrial animal agriculture) เป็นตัวเร่งสำคัญของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานแก่สัตว์นับพันล้านตัวในแต่ละปี

ทำไมเวทีเจรจา COP จึงสำคัญ

สิ่งที่เกิดขึ้นในการประชุม COP ส่งผลต่อทุกมุมโลก การตัดสินใจด้านสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในเวทีนี้จะกำหนดอนาคตของระบบอาหาร สวัสดิภาพของสัตว์ และสุขภาวะของชุมชนที่เปราะบางทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม “ฟาร์มอุตสาหกรรมยังคงถูกมองข้าม ทั้งที่ การผลิตปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การตัดไม้ทำลายป่า และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเรียกร้องให้เกิด การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารที่เป็นธรรม (just food transition) เพื่อแทนที่ฟาร์มอุตสาหกรรมด้วยระบบที่มีมนุษยธรรมและยั่งยืน

การประชุม COP ครั้งล่าสุด

COP30 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–21 พฤศจิกายน 2025 ณ เมือง เบเลง (Belém) ประเทศบราซิล

นี่จะเป็นครั้งแรกที่มีการจัดการประชุม COP ในภูมิภาคอเมซอน ซึ่งเป็นพื้นที่แนวหน้าที่ได้รับผลกระทบจากการตัดไม้ทำลายป่าอย่างรุนแรง อันเป็นผลมาจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่

ภายหลังจากผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังของ COP29 ที่บากู (Baku) ซึ่งล้มเหลวในการจัดการผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศจากฟาร์มอุตสาหกรรม COP30 จึงเป็นความหวังครั้งใหม่ที่จะต้องนำไปสู่ ความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ (climate justice) และการปฏิรูประบบอาหาร เพื่อสัตว์ มนุษย์ และโลก

รายงานล่าสุดขององค์กรฯ ชื่อ “Subsidising Factory Farm Harm” เปิดเผยว่า รัฐบาลหลายประเทศยังคงใช้เงินสาธารณะเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของการตัดไม้ทำลายป่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจก และความทุกข์ของสัตว์

COP30: จุดเปลี่ยนสำคัญ COP30 ต้องเป็นจุดเปลี่ยนของโลก

ผืนป่าอเมซอน ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์นานาพันธุ์และชุมชนชนพื้นเมือง ยังคงถูกทำลายเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์และเลี้ยงวัวเพื่อการผลิตเนื้อในระดับอุตสาหกรรม

การประชุมสุดยอดที่เบเลง ประเทศบราซิล ครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสทางประวัติศาสตร์ที่จะนำสัตว์ มนุษย์ และระบบนิเวศกลับมาอยู่ศูนย์กลางของการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้นำภาคอุตสาหกรรมเกษตร ให้ระบบอาหารกลายเป็นหัวใจหลักของการเจรจาด้านสภาพภูมิอากาศ

หัวข้อสำคัญของวาระการประชุม COP30

ปีนี้ COP30 มุ่งเน้นไปที่ การลงมือทำและการปฏิบัติจริง (action and implementation)”
โดยมีแกนหลัก 6 ด้านภายใต้ Action Agenda เพื่อเร่งความก้าวหน้าภายใต้ข้อตกลงปารีส และกระบวนการประเมินผลระดับโลก (Global Stocktake):

  1. การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน อุตสาหกรรม และการขนส่ง
  2. การอนุรักษ์ป่า มหาสมุทร และความหลากหลายทางชีวภาพ
  3. การเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรและอาหาร
  4. การเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับเมือง โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรน้ำ
  5. การส่งเสริมการพัฒนามนุษย์และสังคม
  6. กลไกสนับสนุนและเร่งรัด (Enablers & Accelerators) เช่น การเงิน เทคโนโลยี และการสร้างศักยภาพ

หัวใจของ COP30 คือการเปลี่ยนการเจรจาให้กลายเป็นการลงมือทำ โดยเชิญชวนให้รัฐบาล ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และชุมชนร่วมกันเพิ่มพันธะสัญญา และเร่งการดำเนินงานด้วยความเร่งด่วนมากขึ้น

Tricia

ทำไมเวที COP จึงสำคัญต่อสัตว์

หลายแกนหลักของการประชุม — โดยเฉพาะด้าน ระบบเกษตรและอาหาร ความหลากหลายทางชีวภาพ และผืนป่าถือเป็นจุดตัดสำคัญระหว่างการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของมนุษย์กับสวัสดิภาพสัตว์

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจะเน้นย้ำว่า ระบบอาหารที่ยั่งยืน การปกป้องผืนป่า และการปฏิรูประบบการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ (climate resilience) ที่แท้จริงและครอบคลุมทั้งคน สัตว์ และโลก

ธีมหลักของการประชุม COP30

ประเทศเจ้าภาพได้กำหนดแนวคิดสำคัญของ COP30 ว่า

นำประสบการณ์จริงของชุมชนที่เปราะบาง ระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิต เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจ และยึดการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศไว้บนฐานของ ความยุติธรรม ความเท่าเทียม และการปฏิบัติจริง

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ COP30 คือ “Thematic Days”วันที่เน้นประเด็นเฉพาะกว่า 30 หัวข้อ ที่เชื่อมโยงนโยบายระดับสูงเข้ากับความเป็นจริงในพื้นที่ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ไปจนถึงระบบอาหาร และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติโดยชนพื้นเมือง

ความหมายต่อการทำงานของ World Animal Protection

สำหรับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ธีมของ COP30 เปิดโอกาสสำคัญให้เราผลักดัน ถึงการให้คำมั่นด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปกป้องธรรมชาติ เชื่อมโยงโดยตรงกับสวัสดิภาพของสัตว์ทั้งสัตว์ในป่าและมหาสมุทร ในฟาร์ม และในสถานการณ์ภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศ

เสียงของเราจะอยู่ที่ COP30 เพื่อผลักดันให้การตัดสินใจด้านสภาพภูมิอากาศ ไม่ทิ้งสิ่งมีชีวิตชนิดใดไว้ข้างหลัง และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมซึ่งครอบคลุมทั้งคนและสัตว์

บทบาทของ World Animal Protection ใน COP30 

องค์กรจะนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อยกระดับ “ระบบอาหารให้เป็นวาระสภาพภูมิอากาศหลัก โดยเสนอ 5 แนวทางการดำเนินการสำคัญ:

  1. การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารที่เป็นธรรม (Just Food Transition): สนับสนุนเกษตรกรและแรงงานให้เปลี่ยนจากฟาร์มอุตสาหกรรมไปสู่เกษตรเชิงนิเวศที่ยั่งยืนและมีมนุษยธรรม
  2. การเปลี่ยนแปลงระดับโลกจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่: ประเทศรายได้สูงต้องเป็นผู้นำ พร้อมสนับสนุนประเทศรายได้น้อยในการสร้างระบบอาหารท้องถิ่นที่เข้มแข็ง
  3. การปรับทิศทางเงินทุนสาธารณะ: เงินอุดหนุนและการเงินด้านสภาพภูมิอากาศควรสนับสนุนเกษตรพืชและฟาร์มที่มีสวัสดิภาพสัตว์ แทนฟาร์มอุตสาหกรรม
  4. ยุติการตัดไม้ทำลายป่า: รัฐบาลต้องหยุดการเปลี่ยนพื้นที่ป่าเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์และขยายฟาร์มปศุสัตว์
  5. บูรณาการนโยบายอย่างเป็นเอกภาพ: นโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ที่ดิน และอาหาร ต้องสอดคล้องกัน โดยเคารพสิทธิของชนพื้นเมือง เกษตรกรรายย่อย และสวัสดิภาพสัตว์

 

สรุปผลการประชุมที่ผ่านมา

 

COP29 — บากู อาเซอร์ไบจาน (2024)

“การประชุมด้านการเงินที่ล้มเหลวในการจัดสรรงบประมาณเพื่ออนาคต”

 

ตลอดการประชุม COP29 องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกได้เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกยอมรับบทบาทของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ พร้อมเผยแพร่นโยบายเชิงข้อเสนอที่ชี้ให้เห็นว่าระบบอาหารในปัจจุบันไม่ยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบใหม่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน

 

แม้จะมีการประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์ภายใต้เป้าหมายการเงินใหม่ (New Collective Quantified Goal) แต่ก็ยังห่างไกลจากตัวเลข 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศและปกป้องชุมชนแนวหน้า

 

อิทธิพลของกลุ่มล็อบบี้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ยังคงชัดเจน และเสียงของเกษตรกรรายย่อยกับผู้เรียกร้องความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศถูกกลบ ทำให้เป้าหมายจำกัดอุณหภูมิไม่เกิน 1.5°C ยังคงห่างไกลจากความจริง

 

“การกระทำเชิงสัญลักษณ์ไม่สามารถดับไฟที่กำลังเผาโลกได้ เบเลงต้องทำให้ได้ในสิ่งที่บากูล้มเหลว — คือความทะเยอทะยานและความรับผิดชอบที่แท้จริง”
เคลลี่ เดนท์ (Kelly Dent), ผู้อำนวยการฝ่ายการมีส่วนร่วมภายนอก, องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

COP28 — ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (2023)

ระบบอาหารเริ่มถูกพูดถึงในเวทีโลก แต่ยังขาดการลงมือจริง

 

ในการประชุม COP28 ระบบอาหารถูกบรรจุไว้ในวาระหลักเป็นครั้งแรก องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ร่วมจัดกิจกรรมข้างเคียงและเป็นเจ้าภาพร่วมของ Food4Climate Pavilion เพื่อเน้นให้เห็นผลกระทบของฟาร์มอุตสาหกรรมต่อสภาพภูมิอากาศและสวัสดิภาพสัตว์

 

มีการเปิดตัวรายงาน “How Factory Farming Emissions Are Worsening Climate Disasters in the Global South” ที่เปิดโปงบทบาทของบรรษัทเนื้อและนมในฐานะแหล่งปล่อยก๊าซและตัวการทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ อย่างไรก็ตาม แม้ Emirates Declaration จะสัญญาการเปลี่ยนแปลง แต่กลับละเลยการลดอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ ช่องโหว่ใหญ่ของการวางแผนด้านสภาพภูมิอากาศโลก

 

“เราไม่มีทางบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศได้ หากไม่ลดการพึ่งพาเนื้อและนม โดยเฉพาะในประเทศรายได้สูง”
เจมส์ รอยสตัน (James Royston), หัวหน้าฝ่ายกิจการภายนอก

COP27 — ชาร์ม เอลเชค อียิปต์ (2022)

“ก้าวเล็ก ๆ ที่ยังหลีกเลี่ยงผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดในห้องประชุม”

 

COP27 เริ่มยอมรับความเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกับสภาพภูมิอากาศ โดยมีการบรรจุระบบอาหารในกระบวนการเจรจา แต่ก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับการเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือจัดการการปล่อยก๊าซจากฟาร์มอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของมีเทนและการทำลายป่า

 

รายงาน “Climate Change and Cruelty” ขององค์กรฯ ชี้ชัดว่า หากไม่จัดการกับการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม จะไม่มีทางบรรลุเป้าหมาย 1.5°C ได้

 

“เรามีความคืบหน้า แต่ช้าอย่างน่าหงุดหงิด การเพิกเฉยต่อฟาร์มอุตสาหกรรมคือความล้มเหลวด้านสภาพภูมิอากาศ”
เคลลี่ เดนท์

COP26 — กลาสโกว์ สหราชอาณาจักร (2021)

“คำพูดทะเยอทะยาน แต่ละเลยภาคส่วนสำคัญ”

 

COP26 เน้นการ รักษาเป้าหมาย 1.5°C ให้คงอยู่และการลดการใช้ถ่านหิน แต่ ระบบอาหารกลับถูกพูดถึงน้อยมาก ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจนว่าการบริโภคเนื้อและนมมีความเชื่อมโยงกับการปล่อยก๊าซและการทำลายป่า

 

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกร่วมกับ NGOs กว่า 100 แห่งเรียกร้องให้ภาคอาหารและเกษตรเป็นประเด็นหลักใน COP26

 

“การลดการบริโภคเนื้อและนมทั่วโลกคือเงื่อนไขสำคัญ หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)”
มาร์ก อับราฮัม (Marc Abraham), สัตวแพทย์และนักเขียน

COP25 — มาดริด สเปน (2019)

“กระบวนการล่าช้า วาระกระจัดกระจาย”

 

ก่อน COP25 องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ร่วมกับ 14 องค์กรเผยแพร่เอกสารนโยบาย เรียกร้องให้ผู้นำโลกดำเนินการเร่งด่วนเพื่อลดการปล่อยก๊าซจากอาหารและปศุสัตว์เชิงเข้มข้น แต่การประชุมจบลงโดยไม่มีข้อตกลงด้านตลาดหรือการเงิน และยังคงไม่มีการยอมรับผลกระทบจากฟาร์มอุตสาหกรรมในเวทีหลัก

COP24 — คาทอวีตเซ โปแลนด์ (2018)

“สำเร็จด้านเทคนิค แต่เงียบสนิทเรื่องเกษตร”

 

การประชุม COP24 ได้สรุป คู่มือการดำเนินงาน (rulebook)” ภายใต้ ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement)
แม้ว่าคู่มือนี้ได้กำหนดวิธีการที่ประเทศต่าง ๆ ต้องรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างโปร่งใส แต่ก็ ละเลยไม่รวม การเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรมไว้ในนั้น
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) ได้เรียกร้องอย่างชัดเจนให้รวมภาคเกษตรเข้าไว้ในนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ พร้อมเตือนว่าการเพิกเฉยต่อเรื่องนี้จะ ทิ้ง ช่องว่างสำคัญไว้ในการจัดการกับก๊าซเรือนกระจก

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ COP (COP FAQs)

 

มีการประชุมรัฐภาคี (Conference of the Parties) มาแล้วกี่ครั้ง?

จนถึงปี 2024 มีการประชุมรัฐภาคี (COP) ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) แล้วทั้งหมด 29 ครั้ง
การประชุมครั้งแรกจัดขึ้นในปี 1995 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
และการประชุม COP30 มีกำหนดจัดขึ้นในเดือน พฤศจิกายน 2025 ที่เมือง เบเลง (Belém) ประเทศบราซิล

การประชุม COP จัดขึ้นบ่อยแค่ไหน?

การประชุม COP จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยปกติจะจัดขึ้นช่วงปลายปีปฏิทิน และมีตัวแทนจากเกือบทุกประเทศในโลกเข้าร่วม
การจัดการประชุมทุกปีสะท้อนถึง ความเร่งด่วนของการตอบสนองในระดับโลกที่จำเป็นต่อการแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

การประชุมรัฐภาคีเริ่มขึ้นเมื่อใด?

การประชุมรัฐภาคีครั้งแรก (COP1) จัดขึ้นในปี 1995 ที่กรุงเบอร์ลิน
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาอย่างเป็นทางการภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ซึ่งได้ถูกจัดตั้งขึ้นที่ การประชุมสุดยอดโลกว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (Earth Summit) ที่นครริโอเดจาเนโร ในปี 1992 การประชุมเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อ ประเมินความก้าวหน้าในการดำเนินการ และผลักดันเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของโลกให้เดินหน้า

การประชุม COP ครั้งต่อไปจัดที่ไหน?

การประชุม COP30 จะจัดขึ้นที่เมือง เบเลง (Belém) ประเทศบราซิล ในเดือน พฤศจิกายน 2025 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะจะเป็น ครั้งแรกที่ภูมิภาคอเมซอนเป็นเจ้าภาพการประชุม พื้นที่นี้เป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพของสภาพภูมิอากาศโลก แต่กำลังถูกคุกคามอย่างรุนแรงจาก การเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม

ฉันจะเข้าร่วมงาน COP ได้อย่างไร?

ผู้แทนจากรัฐบาลจะเข้าร่วมการประชุม COP แต่การประชุมนี้ก็เปิดให้กับผู้สังเกตการณ์ที่ได้รับการรับรอง (accredited observers) ด้วย รวมถึง องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs), ผู้แทนชนพื้นเมือง, กลุ่มเยาวชน, และ นักวิทยาศาสตร์
บุคคลทั่วไปสามารถเข้าร่วมกิจกรรมข้างเคียง (side events) หรือกิจกรรมภาคประชาสังคมได้ กระบวนการรับรองผู้เข้าร่วม (accreditation) อยู่ภายใต้การจัดการของ UNFCCC และจะมีการประกาศกำหนดเวลาการสมัครล่วงหน้าก่อนการประชุมแต่ละครั้ง

ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) คืออะไร?

ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เป็น สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งได้รับการรับรองในการประชุม COP21 เมื่อปี 2015

 

เป้าหมายหลักของข้อตกลงนี้คือ “จำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2°C เมื่อเทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม และพยายามรักษาไม่ให้เกิน 1.5°C” โดยหาก ไม่จัดการกับระบบการเลี้ยงสัตว์เชิงอุตสาหกรรม (factory farming) เป้าหมายของข้อตกลงปารีสก็ไม่สามารถบรรลุได้
การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องมีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกครั้งใหญ่ในทุกภาคส่วน รวมถึง ภาคอาหารและการเกษตร

More about