water testing 2020

ประเทศไทยกับเงามืดของระบบอาหารโลก: ผลกระทบจากการผลิตที่ไม่เป็นธรรม

บล็อก

By

ทุกปีใน “สัปดาห์รู้รักตระหนักใช้ยาปฏิชีวนะ” มักมีการเน้นย้ำเรื่อง “การไม่ใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ” เพราะมันจะนำไปสู่ปัญหา “เชื้อดื้อยา” ที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทุก ๆ ปี

ทุกปีใน “สัปดาห์รู้รักตระหนักใช้ยาปฏิชีวนะ” มักมีการเน้นย้ำเรื่อง “การไม่ใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ เพราะมันจะนำไปสู่ปัญหา เชื้อดื้อยา ที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากทุก ๆ ปี

แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ ไม่รู้เลย คือ ปัญหาเชื้อดื้อยาไม่ได้้เกิดเฉพาะในโรงพยาบาล —มันกำลังซ่อนตัวอยู่ ในระบบการผลิตอาหารของเราเอง

และประเทศไทย… เป็นหนึ่งในต้นเหตุของปัญหาระดับโลกนี้ด้วยเช่นกัน

ปัญหาที่ไม่ได้ซ่อนอยู่ในโรงงาน แต่แฝงตัวอยู่ในเนื้อสัตว์ และไหลอยู่ในแม่น้ำลำคลอง

จาก รายงานการศึกษาการตรวจหาแบคทีเรียดื้อยาที่สำคัญจากสิ่งแวดล้อมบริเวณฟาร์มเลี้ยงสุกรและไก่ ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่พบการปนเปื้อนยาปฏิชีวนะและเชื้อดื้อยาจากกิจกรรมปศุสัตว์ในระดับสูงจนน่าตกใจ

เราไม่ได้กำลังพูดถึง “น้ำเสียเฉย ๆ
แต่กำลังพูดถึงสิ่งที่ ย้อนกลับเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเรา เช่น:

นี่ไม่ใช่แค่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แต่คือ ความมั่นคงทางอาหาร และ ความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศ

ทำไมมันถึงไม่แฟร์? ผลกำไรอยู่กับกลุ่มคนเพียงหยิบมือ แต่ผลกระทบตกอยู่กับทุกคนในสังคม

ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน ผู้ผลิตเนื้อสัตว์รายใหญ่ที่สุดในโลก เราเลี้ยงผลิตส่งออกเป็นสิบล้านตันต่อปี เราคือ ครัวของโลก อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ปัญหาคือ…

ยิ่งผลิตมาก ยิ่งใช้ยาปฏิชีวนะมาก และ ยิ่งประเทศส่งออกมาก คนในประเทศยิ่งเสี่ยงมาก

ความจริงที่คนไทยไม่ควรต้องต่อรอง: สุขภาพไม่ควรถูกแลกกับต้นทุนการผลิตราคาถูก

เมื่อพูดคุยกับเกษตรกรรายย่อยและชุมชนรอบฟาร์ม ทุกคนต่างสะท้อนภาพเดียวกัน:

  • ระบบกดดันให้เกษตรกรต้องผลิตให้เร็วที่สุด ถูกที่สุด
  • การใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเหมือน “เครื่องมือจำเป็นเพื่อให้สัตว์รอดในสภาพแออัด
  • ชุมชนรู้สึกว่า “ทำอะไรไม่ได้ทั้งที่เห็นปัญหาต่อหน้า
  • และที่น่ากลัวที่สุด คือหลายคนเริ่มทราบว่ามีสมาชิกในครอบครัวติดเชื้อที่ดื้อยาหลายขนาน

มันไม่ควรเป็นแบบนี้เลย

ฟาร์มแชมเปี้ยน: ความหวังที่พิสูจน์ว่าเราทำได้ดีกว่านี้

โชคดีที่ยังมี “ฟาร์มแชมป์เปี้ยน” — ฟาร์มที่เลือกทำในสิ่งตรงข้ามกับระบบใหญ่
พวกเขาลดการพึ่งพายา ปรับระบบเลี้ยงให้เป็นธรรมชาติขึ้น และให้สวัสดิภาพสัตว์เป็นหัวใจของการผลิต

การลดความเครียดของสัตว์ การเลี้ยงในพื้นที่โปร่ง การลดความแออัด และการเปลี่ยนวิธีจัดการฟาร์ม ล้วนมีผลโดยตรงต่อการลดการใช้ยาปฏิชีวนะ

สำคัญคือ… พวกเขาพิสูจน์ว่ามัน ทำได้จริง และ ยังเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

Just Food Transition: ระบบอาหารต้องเปลี่ยนอย่างเป็นธรรม สำหรับทุกฝ่าย

การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เรื่องของฟาร์มรายย่อยหรือผู้บริโภคฝ่ายเดียว แต่มันคือ ภารกิจระดับประเทศ

Just Food Transition คือการปรับระบบอาหารให้:

  • ปลอดภัยกว่า
  • เป็นธรรมต่อเกษตรกร
  • ไม่ทิ้งชุมชนไว้ข้างหลัง
  • และเคารพสวัสดิภาพสัตว์

ไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะปกป้อง “คนหรือ สัตว์ระบบอาหารที่ดีควรปกป้อง ทั้งคู่ พร้อมกัน

เราอยู่ในจุดที่ต้องเลือกแล้ว ว่าเราจะยอมให้ มฤตยูดื้อยากลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน หรือจะลุกขึ้นมาปรับระบบอาหารไทยให้ยุติธรรมกว่าเดิม

ทุกงานวิจัย ทุกเสียงจากชุมชน ทุกสัญญาณเตือน ล้วนบอกตรงกันว่า

“ถ้าเราไม่ปรับระบบการผลิตวันนี้ คนไทยในอนาคตจะต้องจ่ายราคาที่แพงกว่านี้มาก ผ่านค่ารักษาพยาบาลและคุณภาพชีวิตที่แย่ลงท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจากระบบผลิตแบบนี้”

ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ เรามีความสามารถ เรามีตัวอย่างความสำเร็จ และเรามีข้อมูลชัดเจนจากหลายรายงาน รวมถึงจากองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก

สิ่งที่เหลืออยู่คือ…

สิ่งที่เราสามารถลงมือทำได้เลยเพื่อร่วมกันเปลี่ยนผ่านระบบอาหารให้เป็นธรรมและยุติธรรมกับทุกชีวิตคือ

👉 ใช้เสียงของเราเพื่อหนุนนโยบาย Just Food Transition ของไทยให้เกิดขึ้นจริง

เลือกผู้ผลิตที่ดี แชร์ข้อมูล ตั้งคำถาม และร่วมเรียกร้องมาตรฐานที่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่าเดิม

More about